วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

บทสรุปเรื่องบล็อก


ความหมายบล็อก
       
        บล็อก (อังกฤษ: blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (อังกฤษ: weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"

การใช้งานบล็อก
     
       ผู้ใช้งานบล็อกจะแก้ไขและบริหารบล็อกผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์เหมือนการใช้งานและอ่านเว็บไซต์ทั่วไป โดยจะมีรูปแบบบริหารบล็อกที่แตกต่างกัน เช่นบางระบบที่มีบรรณาธิการของบล็อก ผู้เขียนหลายคนจะส่งเรื่องเข้าทางบล็อก และจะต้องรอให้บรรณาธิการอนุมัติให้บล็อกเผยแพร่ก่อน บล็อกถึงจะแสดงผลในเว็บไซต์นั้นได้ ซึ่งจะแตกต่างจากบล็อกส่วนตัวที่จะให้แสดงผลได้ทันที
        ผู้เขียนบล็อกในปัจจุบันจะใช้งานบล็อกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งไม่ว่า ติดตั้งซอฟต์แวร์ของตัวเอง หรือใช้งานบล็อกผ่านทางเว็บไซต์ที่ให้บริการบล็อก
         สำหรับผู้อ่านบล็อกจะใช้งานได้ในลักษณะเหมือนอ่านเว็บไซต์ทั่วไป และสามารถแสดงความเห็นได้ในส่วนท้ายของแต่ละบล็อกโดยอาจจะต้องผ่านการลงทะเบียนในบางบล็อก นอกจากนี้ผู้อ่านบล็อกสามารถอ่านบล็อกได้ผ่านระบบฟีด ซึ่งมีให้บริการในบล็อกทั่วไป ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านบล็อกได้โดยตรง ผ่านโปรแกรมตัวอื่นโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาสู่หน้าบล็อกนั้น

ลักษณะสำคัญของบล็อก

    1. แสดงเนื้อหาเป็นชุด ๆ และแต่ละชุดมีวันที่ ที่บันทึกเนื้อหากำกับไว้อย่างชัดเจน
    2. เรียงลำดับเนื้อหาตามวันที่ โดยข้อความใหม่ล่าสุดที่บันทึกเข้าไป จะถูกแสดงอยู่ด้านบนสุดของหน้าเว็บไซต์ ส่วนข้อความที่บันทึกเข้าไปก่อนหน้านั้น จะอยู่ถัดลงไปเรื่อย ๆ
    3. มีการสะสมชุดเนื้อหาย้อนหลัง ผู้อ่านสามารถค้นหาตามวันเวลา (archive) หรือค้นหาจากคำสำคัญ (tag) ได้
    4. อาจอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็น (comment) ที่มีต่อเนื้อหาได้
    5. อาจมีการจัดหมวดหมู่ของเนื้อหาออกเป็นกลุ่ม ๆ (category) เช่น บล็อกหนึ่ง ๆอาจไม่ได้มีเนื้อหาเพียง เรื่องเดียว เพราะเจ้าของบล็อกมีความสนใจในหลาย ๆ เรื่อง เพื่อให้สะดวกในการอ่าน จึงทำการแยกเป็นหลายหมวดหมู่ไว้ ตัวอย่างเช่น บันทึกประจำวัน, แนะนำเว็บ, วิเคราะห์ข่าว, วิจารณ์ภาพยนตร์ เป็นต้น
    6. อาจมี RSS Feed เพื่อให้สะดวกในการติดตามการอัพเดทข้อมูลของบล็อกนั้น ๆและเพื่อความสะดวกในการอ่านบล็อกโดยที่ไม่ต้องเข้ามาอ่านที่บล็อกจริง ๆ

ประโยชน์ของบล็อก 

   1. ใช้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้
   2. เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้
   3. เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้
   4. เป็นเครื่องมือในการค้นหาความรู้ ผู้ชำนาญการ และชุมชนปฏิบัติ
   5. เป็นเครื่องมือในการรวบรวมและแยกแยะประเภทของความรู้ สกัดแก่นความรู้ และสร้างความสัมพันธ์ของความรู้
   6. เป็นเครื่องมือในการสร้างลำดับความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของความรู้
   7. ใช้เป็นเครื่องมือแสดงรายละเอียดของแก่นความรู้อย่างเป็นระบบ
   8. เป็นศูนย์ความรู้ขององค์การ


บทที่ 5
เครือข่ายสังคมออนไลน์



เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)

ความหมาย Social Network  

     Social Network คือ การที่ผู้คนสามารถทำความรู้จักกัน และเชื่อมโยงกันในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

หากเป็นเว็บไซต์ที่เรียกว่าเป็นเว็บ Social Network ก็คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันนั่นเอง



ตัวอย่าง Social Network 
   
     ได้แก่  Hi5, Facebook, Twitter ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Social Network เต็มรูปแบบที่ให้ผู้คนได้มามีพื้นที่ได้ทำความรู้จักกันโดยเลือกได้ว่าต้องการทำความรู้จกกับใคร หรือ เป็นเพื่อนกับใคร

ความหมาย Social Media

     Social Media  หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือ เขียนเล่าเนื้อหาเรื่องราว ประสบการณ์บทความ รูปภาพ และวีดิโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้ที่ในเครือขายของตน ผ่านทางเว็บไซต์ Social Network ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์



การสนทนาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Chat)

แชท (Chat) คืออะไร?

     การพูดคุยสนทนาผ่านทางอินเทอร์เน็ต นับเป็นบริการหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเน็ตทั้งหลาย ซึ่งปัจจุบันได้มีการพัฒนาจากการพูดคุยกันด้วยการพิมพ์มาเป็นการสนทนาด้วยเสียง โทรศัพท์ นับเป็นสิ่งที่ทำให้อินเทอร์เน็ตมีเสน่ห์อย่างยิ่ง

ตัวอย่างโปรแกรมแชท



โปรแกรมเพิร์ท (PIRCH)
โปรแกรมไอซีคิว (ICQ)
ซอฟต์แวร์คิวคิว (QQ)
Yahoo! Messenger
MSN Messenger
ไลน์ (Line)


บทที่ 4
การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน


1. การประยุกต์ใช้  Microsoft Word

การรียกใช้โปรแกรม Microsoft Word
 
   1. เรียกจาก Desktop  หรือ หรือจาก Shortcut
   2. คลิกที่ปุ่ม Start -> Programs -> Microsoft Office -> Microsoft Office Word 2007

ส่วนประกอบของ Microsoft Word


การบันทึกเอกสาร

     1. คลิกปุ่ม Save  บนแถบ Quick Access Toolbar หรือ คลิกปุ่ม   Office Button   เลือกคำสั่ง Save หรือ Save As
     2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Save
     3. ที่ช่อง Save in เลือกตำแหน่งไดร์ และโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บข้อมูล
     4. ที่ช่อง File name พิมพ์ชื่อไฟล์ คลิกปุ่ม Save จะได้ไฟล์นามสกุล .docx


2. การประยุกต์ใช้  Microsoft PowerPoint

การเรียกใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint
 
    1. คลิกเลือกปุ่ม Start
    2. เลือก Programs> Microsoft Office> Microsoft Office PowerPoint 2007

ส่วนประกอบของหน้าต่าง Microsoft PowerPoint


 Microsoft  PowerPoint

   1.ใช้สำหรับสร้างและนำเสนอผลงานหรือข้อมูล
   2. แฟ้มที่สร้างขึ้นมาจะมีนามสกุลเป็น  .ppt
   3.นำเสนอได้ในรูปแบบสื่อประสม (Multimedia) เช่น ข้อความ  รูปภาพ  เสียง วิดีโอ  กราฟ ตาราง

3. การใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel

การเรียกใช้โปรแกรม Microsoft Excel
 
    1. คลิกเลือกปุ่ม Start
    2. เลือก Programs> Microsoft Office> Microsoft Excel 2007

ส่วนประกอบของหน้าต่าง Microsoft Excel



Microsoft Excel

   1.เป็นโปรแกรมตารางคำนวณ หรือ สเปรดชีต (Spread Sheet)
   2.เหมาะสำหรับการจัดการเกี่ยวกับการคำนวณ หาผลลัพธ์ การสร้างกราฟ แผนภูมิ
   3.Excel มีฟังก์ชันในการคำนวณให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้มากมาย จึงทำให้สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์คำนวณค่าตัวเลขต่างๆได้สะดวก
บทที่ 3
การสืบค้นข้อมูล




การสืบค้นข้อมูล คือ  

  1. วิธีการค้นหาข้อมูล ว่ามีอยู่หรือไม่
  2. วิธีการต่างๆ ที่ใช้ประกอบในการสร้างประโยคการค้นหา เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
  3. เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่ และนำมาใช้ประโยชน์

การสืบค้นข้อมูลแบบต่างๆ 

  1. การสืบค้นข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์  เป็นการสืบค้นข้อมูลที่บันทึกไว้ในเครื่อง เช่น ใน Mycomputer
  2. การสืบค้นข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นการสืบค้นข้อมูลผ่านโปรแกรมสืบค้น Search Engine จากอินเทอร์เน็ต

www.google.com


    - เป็นเว็บไซต์ Search Engine ยอดนิยมทั่วโลก

    - มีเครื่องแม่ข่ายกระจายไปทั่วโลก หลายภาษา

    - มีโปรแกรม update ฐานข้อมูลโดยอัตโนมัติ / ตลอดเวลา

    - ค้นหาโดยทั่วไป Basic / Simple Search ได้ดี

www.yahoo.com
 
 
    - มีผู้นิยมใช้ทั่วโลก รองจาก Google

    - มีบริการเว็บเสริมมากมาย

    - มีการจัด Web Site Directories เรียงตามหัวเรื่อง Subjects ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน

    - มีเครื่องแม่ข่ายกระจายไปตามภูมิภาคทั่วโลก

www.altavista.com


    - มีชื่อเสียงในเรื่องความสามารถในการทำ Advanced Search ลักษณะต่างๆ

    - โปรแกรม Search Engine ของ altavista ถูกนำไปใช้โดยเว็บไซต์ต่างๆ หลายแห่ง

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

บทที่ 2
เครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต


ความหมายเครือข่ายคอมพิวเตอร์

     การนำคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป มาเชื่อมต่อกันด้วยอุปกรณ์สื่อสาร โดยการเชื่อมต่อกันนี้ อาจมีเฉพาะกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เป็นต้น ผู้ใช้งาสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันในเครือข่ายและใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้นได้
ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

     1. เครือข่ายระดับท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นเครือข่ายระยะใกล้ ที่ประกอบด้วยกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ใช้งานต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เป็นต้น

     2. เครือข่ายระดับเมือง (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครือข่ายระยะกลาง ที่ประกอบด้วยกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันอยู่

     3. เครือข่ายระยะไกล (Wide Area network : WAN) เป็นเครือข่ายระยะไกล กล่าวคือ เครือข่ายระยะไกลนี้ จะทำการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วยกัน

ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 

     1. เครือข่ายระดับท้องถิ่น (Local Area Network : LAN) เป็นเครือข่ายระยะใกล้ ที่ประกอบด้วยกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ใช้งานต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เป็นต้น

     2. เครือข่ายระดับเมือง (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครือข่ายระยะกลาง ที่ประกอบด้วยกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันอยู่

     3. เครือข่ายระยะไกล (Wide Area network : WAN) เป็นเครือข่ายระยะไกล กล่าวคือ เครือข่ายระยะไกลนี้ จะทำการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วยกัน

ความหมายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


     
         อินเทอร์เน็ต (Internet) มาจากคำว่า Inter Connection Network หมายถึง เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบต่างๆ ที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ลักษณะของระบบอินเทอร์เน็ตเป็นเสมือนใยแมงมุมที่ครอบคลุมทั่วโลก ในแต่ละจุดที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้น สามารถสื่อสารกันได้หลายเส้นทาง

การเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 

    
     การเชื่อมต่อผ่าน analog modem ธรรมดา เป็นการเชื่อมต่อในระยะแรกๆ ของการใช้อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่ออยู่ที่ 56 Kbps
modem ที่ใช้งานทั้งสองเครื่องต้องทำงานด้วยความเร็วเท่ากัน ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทางใช้ modem ที่มีความเร็วสูงสุด 56 Kbps แต่เครื่องปลายทางใช้ modem ที่มีความเร็วสูงสุดเพียง 28.8 Kbps เครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทางต้องปรับลดความเร็วของ modem ลงเป็น 28.8 Kbps จึงจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ซึ่งเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ 


         การเชื่อมต่อผ่าน ADSL modem การเชื่อมต่อนี้ ส่วนมากจะเป็นการเชื่อมต่อตลอดเวลา สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้โดยไม่กระทบต่อการโทรศัพท์พื้นฐาน
ADSL คือ Asymmetrical Digital Subscriber Line เป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเชื่อมต่อความเร็วสูง โดยมีความเร็วขาขึ้น (Upstream : จากผู้ใช้ไปยัง ISP) กับความเร็วขาลง (Downstream : จาก ISP มายังผู้ใช้) ไม่เท่ากัน

บทที่ 1
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

 ความหมายของคอมพิวเตอร์  

   1. คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ
     2. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายคอมพิวเตอร์ว่า " เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายๆและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์

ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
    
   1. เป็นเครื่องมือสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
    2. ช่วยให้การดำเนินงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  ประเภทคอมพิวเตอร์

ประเภทของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

   1.ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด ความสามารถในการประมวลผลที่ทำได้ถึงพันล้านคำสั่งต่อวินาที
     2.  เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) สามารถรองรับการทำงานจากผู้ใช้ได้หลายร้อยคนในเวลาเดียวกัน ประมวลผลด้วยความเร็วสูง มีหน่วยความจำหลักขนาดใหญ่
     3. มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer) มีประสิทธิภาพในการทำงานด้านความเร็ว และความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลน้อยว่ามนเฟรม แต่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
     4. เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีขนาดเล็ก เหมาะกับโต๊ะทำงานในสำนักงาน สถานศึกษา และที่บ้าน
     5. คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค (Notebook Computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถเหมือนกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ถูกย่อให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
     6. คอมพิวเตอร์แบบพกพา เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา สามารถพกพาติดตัวได้สะดวก


เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

     เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  หมายถึง  ระบบคอมพิวเตอร์ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศ โดยเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังต่อไปนี้
     1. การนำเข้า (Input)  ส่วนของการส่งข้อมูลการประมวลผลด้วยอุปกรณ์นำเข้าต่างๆ
     2. การประวลผล (Processing) การดำเนินการเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อข้อมูล ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประโยชน์
     3. ผลลัพธ์ (Output) ผลที่ได้จากการประมวลผล โดยทั่วไปอยู่ในรูปของเอกสารหรือรายงานสารสนเทศ
     4. ข้อมูลสะท้อนกลับ (Feedback) ผลลัพธ์ได้จากการประมวลผลเพื่อนำไปปรับปรุงการนำข้อมูลเข้า และกิจกรรมการประมวลผลโดยเฉพาะข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่เกิดขึ้น
     5. การจัดเก็บข้อมูล (Storage) คอมพิวเตอร์จะนำผลลัพธ์จากการประมวลผลไปบันทึกในอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูล (หน่วยความจำสำรอง)

เทคโนโลยีสารสนเทศ

     เทคโนโลยีสารสนเทศ  หมายถึง เทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ได้มาซึ่ง สารสนเทศ



 องค์ประกอบของระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์

     ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-Based Information System :CBIS)  คือ ระบบสารสนเทศที่มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์สร้างระบบงานที่สอดคล้องกับความต้องการ




ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-Based Information System :CBIS)  คือ ระบบสารสนเทศที่มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์สร้างระบบงานที่สอดคล้องกับความต้องการ

        CBIS มีองค์ประกอบที่สำคัญ 6 ประการ คือ

      ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

        ซอฟต์แวร์ (Software) โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยควบคุมให้ฮาร์ดแวร์ทำงานเพื่อประมวลผล               ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ

        ฐานข้อมูล (Database) การเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันไว้ด้วยกัน

        การติดต่อสื่อสาร (Communication) การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้มีการใช้             ทรัพยากรร่วมกันและติดต่อสื่อสารดันได้

        กระบวนการ (Procedure) ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนของผู้ใช้ หรือของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง

        บุคลากร (Personnal) บุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ผู้พัฒนา ผู้ใช้งาน
Welcome To My Blog

 ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกแห่งการเรียนรู้รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวัน 




 บล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา 4100103 เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นรายวิชาตามหลักสูตรปริญญาตรี  มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา  

จัดทำโดย 
นางสาวมาริษา  อาแว
รหัสประจำตัวนักศึกษา  405604014 
สาขาวิชาคณิตศาสตร์